ภูเรือ |
พื้นที่ป่าภูเรือประกอบด้วยทิวเขาสูง สลับซับซ้อนเรียงรายเป็นรูปต่างๆ น่าพิศวงสลับกับที่ราบเป็นบางส่วน สาเหตุที่ขนานนามว่า “ภูเรือ” เพราะมีภูเขาลูกหนึ่งมีชะโงกผายื่นออกมาดูคล้ายสำเภาใหญ่ และที่ราบบนยอดเขามีลักษณะคล้ายท้องเรือตลอดจนมีธรรมชาติและทิวทัศน์ที่สวยงาม เหมาะสมที่จะจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ
อุทยานแห่งชาติภูเรือ มีลักษณะภูมิประเทศเป็นทิวเขาสูงสลับซับซ้อนประกอบด้วย เขาหินทรายเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนั้นเป็นหินแกรนิตสลับกันไป ลักษณะเช่นนี้จึงทำให้มีที่ราบสูงสลับกับ ยอดเขาสูงทั่วไป มียอดเขาสูงที่สุดคือ ยอดภูเรือ มีความสูงถึง 1,365 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ยังมียอดเขาที่สำคัญ คือ ยอดเขาภูสัน มีความสูง 1,035 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง และยอดภูกุ มีความสูง 1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ลักษณะเช่นนี้เองจึงเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่สำคัญก่อให้เกิดลำธารหลายสาย เช่น ห้วยน้ำด่าน ห้วยบง ห้วยเถียงนา ห้วยทรายขาว ห้วยติ้ว และห้วยไผ่ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของน้ำตกห้วยไผ่ที่สวยงามแห่งหนึ่ง
ลักษณะภูมิอากาศ
ด้วยอุทยานแห่งชาติภูเรืออยู่ที่จังหวัดเลย ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุดของประเทศไทย และอยู่บนยอดเขาสูง จึงทำให้มีอากาศเย็นตลอดปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวจะหนาวเย็นมาก จนกระทั่งน้ำค้างบนยอดหญ้าจะแข็งตัวกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็ง ซึ่งมีภาษาพื้นเมืองเรียกว่า “แม่คะนิ้ง” ผู้ที่จะไปพักผ่อนควรเตรียมตัวให้พร้อมที่จะผจญกับความหนาวเย็น
พืชพรรณและสัตว์ป่า
นอกจากนี้ ป่าภูเรือยังมีสัตว์ป่าที่ชุกชุมพอสมควร ที่พบบ่อย เช่น หมี เก้ง กวางป่า หมูป่า หมาไน ลิง พญากระรอกดำ ไก่ฟ้าพญาลอ ไก่ป่า และชุกชุมไปด้วยกระต่ายป่า เต่าเดือย เต่าปูลูและนกชนิดต่างๆ ที่สวยงามอีกมากมาย โดยเฉพาะในฤดูหนาวจะอพยพมาจากประเทศจีนเป็นจำนวนมาก
แหล่งท่องเที่ยว
จุดชมวิวเดโช
อยู่ห่างจากที่ทำการฯ ไปตามถนนลาดยาง 500 ม. เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสจะสามารถมองเห็นทิวเขาต่าง ๆ ของเมืองเลยได้
ผาซำทอง
ผาซำทอง
อยู่ริมถนนลาดยางห่างจากที่ทำการฯ ประมาณ 2.2 กม. เป็นจุดชมวิวทิวเขาของเลยอีกจุดหนึ่ง มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชัน ที่เรียกว่าซำทอง ก็มาจากบริเวณนี้เป็นแหล่งน้ำซับ (ซําเป็นภาษาอีสาน แปลว่าแหล่งน้ำซับ) และมีไลเคนสีเหลืองคล้ายสีทองขึ้นเป็นจำนวนมาก จึงเรียกผานี้ “ผาซำทอง”
หินเต่า
อยู่ริมถนนลาดยางเช่นกัน ห่างจากที่ทำการฯ ประมาณ 2.8 กม. ลักษณะเป็นสวนหินพื้นที่ไม่กว้างมากนัก แต่โดดเด่นด้วยหินที่จินตนาการว่าเป็นรูปเต่า
ผาโหล่นน้อย
อยู่ห่างจากที่ทำการฯ ไปตามถนนลาดยางประมาณ 3.5 กม. เมื่อถึงด่านตรวจจุดที่ 2 ก็ลงเดินไปตามทางดินประมาณ 100 ม. ก็จะถึงผาโหล่นน้อย ผาโหล่นน้อยเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม ณ จุดนี้มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,320 ม. สามารถมองเห็นภูหลวง ภูผาสาด ภูครั่ง และทะเลภูเขาสลับซับซ้อน
น้ำตกห้วยไผ่
อยู่ห่างจากที่ทำการฯ ประมาณ 2 กม. น้ำตกห้วยไผ่เป็นน้ำตกสูงชัน สายน้ำจะไหลตกลงมาตามผาหินที่สูงประมาณ 30 ม. สวยงามพอสมควร
ยอดภูเรือ
จากด่านตรวจที่ 2 เดินสู่ยอดภูเรือไปตามถนนลาดยางอีกประมาณ 700 ม. หรือจะเดินตามทางดินที่ทาง อช. จัดไว้ให้ศึกษาธรรมชาติก็สะดวก โดยจุดเริ่มต้นอยู่ทางด้านขวามือของถนน ตรงข้ามด่านตรวจ แล้วลัดเลาะไปตามขอบหน้าผา ผ่านป่าที่มีไม้ยืนต้นขึ้นหนาแน่นทำให้อากาศเย็นชื้นและมืดครึ้ม มีไอหมอกฟุ้งกระจายอยู่ทั่วราวป่า ยอดภูเรือเป็นจุดที่สูงที่สุดใน อช. โดยสูง 1,365 ม. จากระดับน้ำทะเล บริเวณโดยรอบเป็นลานหินธรรมชาติที่แซมด้วยทุ่งหญ้าสลับกับป่าสน ซึ่งมีทั้งสนสองใบที่ขึ้นตามธรรมชาติ และสนสามใบที่เป็นสนปลูก นอกจากนี้ตามก้อนหินก็มีไลเคนขึ้นประดับเป็นดอกดวงดูสวยงามมาก บนยอดภูยังสามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามได้รอบด้าน ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสจะสามารถมองเห็นแม่น้ำเหืองและแม่น้ำโขงซึ่งกั้นพรมแดนไทยกับลาวได้ ยอดภูเรือยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปนาวา-บรรพต ซึ่งมีประวัติว่าชาวภูเรืออัญเชิญมาจากวัดพระญาติ จ. พระ-นครศรีอยุธยา เมื่อปี พ.ศ. 2520
จากยอดภูเรือมีเส้นทางเดินผ่านทุ่งหญ้าที่มีไม้ต้นเล็ก ๆ ขึ้นอยู่ปะปน แต่ที่น่าสนใจเป็นดอกไม้เล็ก ๆ ที่ขึ้นประดับพื้นให้เดินชมอย่างเพลิดเพลิน เช่น กระดุมเงิน เปราะภู ดาวเรืองภู เป็นต้น ช่วงฤดูฝนบริเวณป่าสนที่เรียกว่าทุ่งกวางตาย จะมีดอกกระเจียวบานไปทั้งทุ่ง นอกจากนี้ยังมีลานหินพานขันหมาก ลักษณะเป็นลานหินที่แตกเป็นรอยตื้น ๆ เต็มไปด้วยดอกไม้ต่าง ๆ เช่น เอื้องม้าวิ่ง เอื้องนวลจันทร์ เส้นทางเดินนี้จะวกลงมาสู่ที่กางเต็นท์และสามารถเดินลงมาถึงที่ทำการฯ
สวนหินพาลี
อยู่ใกล้จุดกางเต็นท์ ลักษณะเป็นสวนหินขนาดใหญ่ มีก้อนหินรูปร่างแปลกตาตั้งอยู่เรียงราย บางก้อนคล้ายเสาหินสูงตระหง่าน บางก้อนมีส่วนฐานเล็ก แต่ยอดแผ่ออกเป็นครีบ กลายเป็นเพิงหิน ใช้หลบแดดได้เป็นอย่างดี บ้างคล้ายดอกเห็ด เกิดจากหินก้อนใหญ่ทับอยู่บนหินอีกก้อนหนึ่ง บางก้อนก็แหว่งเว้า ชวนให้จินตนาการว่าเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ กลุ่มหินรูปทรงประหลาดเหล่านี้เป็นส่วนที่เหลือจากการผุพังของชั้นหินทราย ซึ่งเป็นหินที่พบได้ทั่วไปทางภาคอีสาน
การเดินทาง
รถยนต์
อุทยานแห่งชาติภูเรือ อยู่ห่างจากจังหวัดเลย ประมาณ 48 กิโลเมตร โดยเดินทางไปโดยทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 203 ถึงอำเภอภูเรือ จะมีป้ายอุทยานแห่งชาติอยู่ปากทางเข้าซึ่งอยู่ข้างที่ว่าการอำเภอภูเรือ (มาจากจังหวัดเลย ป้ายจะอยู่ทางด้านขวามือ มาจากจังหวัดเพชรบูรณ์ ป้ายจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ) จากปากทางเข้าเดินทางต่อไปอีก ประมาณ 4 กิโลเมตร ก็ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ถนนภายในอุทยานแห่งชาติเป็นถนนลาดยาง เป็นถนนบนภูเขา บางช่วงมีความลาดชัน นักท่องท่องเที่ยวควรขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ใช้เกียร์ต่ำ มิฉะนั้นจะทำให้เบรกไม่ได้
เครื่องบิน
การเดินทางโดยเครื่องบิน 1)เส้นทางกรุงเทพฯ-อุดรฯ และนั่งรถประจำทางสายอุดรฯ-เมืองเลย 2)เส้นทางกรุงเทพฯ-ขอนแก่น นั่งรถประจำทางสายขอนแก่น-เมืองเลย เมื่อมาถึงจังหวัดเลยสามารถนั่งรถประจำทางประมาณ 50 กิโลเมตร ถึงอำเภอภูเรือ 3)กรุงเทพฯ-เพชรบูรณ์
รถโดยสารประจำทาง
เดินทางจากกรุงเทพฯ มี 2 เส้นทาง คือ 1.รถสายกรุงเทพฯ-ภูเรือ 2.รถสายกรุงเทพฯ-เมืองเลย และนั่งรถประจำทาง ดังนี้ 1)สายเมืองเลย-ภูเรือ 2)นครพนม-เชียงราย 3)อุดรฯ-พิษณุโลก 4)อุดรฯ-เชียงใหม่
สิ่งอำนวยความสะดวก
- มีบ้านพัก ที่กางเต็นท์ และห้องน้ำ
- มีร้านอาหารบริเวณที่ทำการฯ เฉพาะช่วงเดือน ธ.ค.-ก.พ.
- มีไฟฟ้า 18.00-21.30 น.
สถานที่ติดต่อ
อช. ภูเรือ ต. หนองบัว อ. ภูเรือ จ. เลย 42160
โทร. 0-4280-1716